Tuesday, November 17, 1992

รักคุณเท่าฟ้า

หากฉันบิน บินไปได้ดังนก ฉันจะบิน บินไปในนภา
หากฉันลอยล่องลมเหนือฟากฟ้า ฉันจะมองลงมายังพื้นดิน
… โลกมนุษย์แสนกว้างใหญ่เหลือเกิน ยิ่งมองยิ่งเพลินจำเริญหัวใจ

พื้นแผ่นดินแลดูเป็นสีเขียว พื้นแผ่นน้ำแลดูเป็นสีคราม
อาจจะเคยมีใครตั้งคำถาม ความงดงามของโลกอยู่หนใด?
… โลกมนุษย์แสนกว้างใหญ่เหลือเกิน ยิ่งมองยิ่งเพลินจำเริญหัวใจ

ความงามความรักมีมาตามธรรมชาติ เติมวาดแต่งแต้มแสงสีตามในใจตน
มีฟ้า มีน้ำ มีดินหินทราย และผู้คน ร่วมสุขทุกข์ทนสร้างแผ่นพื้นดินไทย

หากคุณบิน บินไปได้ดังนก ยามเมื่อคุณบินไปในนภา
ยามเมื่อคุณล่องลอยบนฟากฟ้า มองลงมาเบื้องล่างยังพื้นดิน
… โลกมนุษย์แสนกว้างใหญ่เหลือเกิน ยิ่งมองยิ่งเพลินจำเริญหัวใจ

กระแสเสียงเพลงนี้จากฟากฟ้าแสนไกล ฝากความในใจให้มวลหมู่ชนทุกคน
อันความเป็นจริงที่มองเห็นมาจากฟ้าเบื้องบน ฟ้าอยู่ค้ำคน คนไม่อยู่ค้ำฟ้า

บิน...บินไป บินบนความเป็นไทย
บิน...บินไป ไปกับสายการบิน
การบินไทย เรารักคุณเท่าฟ้า

Saturday, August 08, 1992

Fax for Visit from P.Charn's group

คงไม่ต้องบอกนะว่าโต้งเป็นที่รักของบ้านเราทุกคน วันที่ 31 กค. 2535
ต้อยติ่งโทรมาบอกว่ามีรายชื่อโต้งอยู่ในเครื่องบินลำนั้นด้วย
มาม้าและพวกเราทุกคนได้แต่นั่งใจจดใจจ่อ รอฟังข่าวด้วยความเป็นห่วง หนูภาสชวนพวกเรา
และพี่จิ๋มซึ่งพอดีอยู่บ้านเราพอดี ไปสวดมนต์ ภาวนาขอให้โต้งไม่เป็นไร

พอพวกเราทราบข่าว พวกเราตกใจมาก โดยเฉพาะหนูนัน ตอนที่เราโทรทางไกลไปบอก
หนูนันร้องไห้โฮเลย วันพุธมาม้านิมนต์พระมาเพื่อจะได้จัดสังฆทานให้โต้ง
เราเชิญคุณแม่และน้องของโต้งมาด้วย
พี่ลิตกำชับว่า ให้เราซื้อหนังไก่ที่ร้านทิปทอปมาถวายพระด้วยเพราะโต้งชอบทานมาก
วันนั้นพระฉันไก่มากเลย ทั้งพี่นัน หญิง นก พี่ลี
และเพื่อนโต้งที่ทราบข่าวก็มาช่วยงานกัน ทำบุญให้โต้งด้วยนะ

ตั้งแต่วันที่พี่ลิตพาโต้งมาให้รู้จักพวกเรา ตอนโต้งอยู่ ป.7
โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน มาจนถึงเดี๋ยวนี้
พวกเรายังไม่เคยได้ยินว่าใครเกลียดโต้งเลย มีแต่คนรักโต้งทั้งนั้นเลย
พวกเราเชื่อว่าคนดีอย่างโต้งต้องได้ไปอยู่ที่ดีแน่

เรารักโต้งทุกคน
จากครอบครัว ชาญ~พวงรัตน์ กรศรีทิพา ตา นัท ลิต พี นัน วี ภาส...
ป.ล. โต้งเพื่อนรัก ผมคิดถึงคุณ จาก ชลิต

Friday, July 31, 1992

The Messenger's phone call

"วิภาส -- ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน? ...
เธอได้ฟังข่าวบ้างแล้วหรือยัง? ...
ติดต่อที่บ้านหรือเปล่า? ...
... เราว่าเธอรีบกลับบ้านดีกว่านะ"
วิภาสเพิ่งกลับจากเรียนภาคค่ำที่ธรรมศาสตร์ และก็เป็นนิสัยในขณะนั้นที่จะวกกลับเข้าไปสิงอยู่ที่บริษัทจนพี่ๆ เลิกงานปิดประตูกลับบ้านกันหมด ตอนแรกที่วางสายจากนุชรี ก็ยังงงอยู่ครู่หนึ่ง แล้วสังหรณ์บางอย่างก็เริ่มเตือนสติ
"ผมจะต้องกลับบ้าน" วิภาสบอกกับพี่ๆ ในแผนก
ที่บ้าน พ่อ-แม่-วารี อยู่กันครบที่ห้องนอนชั้น 3 นั่งรวมกันอยู่หน้าโทรทัศน์ สีหน้าทุกคนทั้งเครียดทั้งกังวล แต่ถามก็ไม่มีใครตอบอะไรชัดเจน ความไม่ปะติดปะต่อว่ามีเรื่องเกี่ยวกับการบินไทย วิภาสเริ่มนึกถึงเหตุร้ายชนิดต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นโดยที่เรายังไม่รู้ว่าวิศิษฎ์ "อาจ" ติดอยู่ในสถานการณ์นั้นด้วยหรือเปล่า แต่ทั้งหลายที่คิดก็ไม่เลวร้ายเท่ากับที่อีกสักพักหนึ่งโทรทัศน์ก็ตัดเข้ารายงานข่าวด่วน เครื่องบินสายการบินไทย เที่ยวบิน TG311 ขาดการติดต่อในระหว่างเดินทางไปยังกัฐมาณฑุ รายชื่อลูกเรือบนโทรทัศน์มีชื่อวิศิษฎ์รวมอยู่ด้วย...

คุณวารุณีเริ่มร้องไห้ คนที่เหลือเครียดมากขึ้นแต่ยังข่มใจไว้เนื่องจากยังไม่มีข้อสรุป
"เป็นไปไม่ได้ เราไม่เชื่อ, บ้านเราจะบังเอิญมีเรื่องเข้ามาอีกได้ยังไงในช่วงนี้!"
วิภาสยืนกรานกับทุกคนในบ้าน.